มหากาพย์เอนูม่า เอลิช แผ่นที่ 1 (แปลไทย)
- Kurukuru
- Nov 13, 2020
- 1 min read
เมื่อครั้งที่สรวงสวรรค์ยังมิได้ถือกำเนิด
และผืนแผ่นดินเบื้องล่างยังมิเป็นรูปร่าง---
มี อัปชู ผู้มาก่อนสิ่งอื่นใดเป็นผู้ก่อกำเนิด
และผู้สร้างโลก เทียแมต ผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง
ทั้งสองได้หมุนวนผสมสินธุของตนเข้าด้วยกัน
ก่อนที่ทุ่งหญ้าจะรวมตัวเป็นปึกแผ่นและกอกกที่จะเป็นที่รู้จัก
เมื่อครั้งยังมิมีเทพองค์ใดจุติขึ้น
หรือเป็นรูปร่าง เมื่อโชคชะตายังไม่ประกาศประกาษิต
ทวยเทพได้ถือกำเนิดขึ้นจากสิ่งเหล่านี้
ลามู และลาหะมู ได้ก่อกำเนิดเป็นรูปร่าง
ในขณะที่พวกเขาเหล่านั้นเติบโตและเติบใหญ่
อันชาร์ และ คิชาร์ ผู้เหนือกว่าได้ก่อกำเนิด
พวกเขาได้ยืดวันเวลาออกไปทวีคูณเป็นปี
อนู บุตรของพวกเขาได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับบิดา
อนู บุตรผู้เทียบเทียม อันชาร์
และ อนู ให้กำเนิด นูดิมมุด ผู้เท่าเทียมตน
นูดิมมุด ผู้เป็นเลิศในหมู่พระบิดา
ผู้หยั่งรู้ เฉลียวฉลาด และ มีกำลังมาก
แข็งแกร่งมากกว่าบิดาผู้ก่อกำเนิด อันชาร์
เขาไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรในหมู่เทพเจ้า พี่น้องของตน
พี่น้องเหล่าเทพได้มารวมตัวกัน
เสียงโห่ร้องอันดังกึกก้องทำให้ เทียแมต ไม่พอใจนัก
พวกเขารบกวนประสาทของ เทียแมต
ทั้งการเต้นรำที่ทำให้เกิดเสียงไปทั่วในอันดูรูนา
อัปชู มิได้ลดทอนเสียงอันดังนั้น
และ เทียแมต ก็มิได้กล่าวสิ่งใดเมื่อพบหน้าพวกเขา
การกระทำของพวกเขาทำให้นางไม่พอใจ
ถึงแม้ว่าการกระทำของพวกเขาจะไม่ดี นางก็ยังคงให้อภัยพวกเขา
เมื่อนั้น อัปชู ผู้ให้กำเนิดทวยเทพ
ได้เรียก มัมมู ขุนนางใหญ่และกล่าวกับเขา
"ขุนนางมัมมูผู้ทำให้ตัวข้าพอใจ---
มาเถิด ไปหาเทียแมต"
พวกเขาได้เดินทางไปและต่างนั่งลงหันหน้าไปทาง เทียแมต
เมื่อพวกเขาได้เอ่ยถึงเหล่าเทพเจ้าผู้เป็นลูกๆ
อัปชู ได้เอ่ยปาก
กล่าวกับ เทียแมต
"พฤติกรรมของพวกเขาชักจะทำให้ข้ารำคาญเสียแล้ว
ข้าไม่สามารถพักผ่อนในยามกลางวันหรือหลับลงในยามราตรีได้เลย
ข้าจักทำลายวิถีของพวกเขา
ความเงียบสงบจักได้หวนคืนมาและพวกข้าสามารถหลับลงได้"
เมื่อ เทียแมต ได้ฟัง
นางโกรธและเอ่ยกับคู่ครองของนาง
นางเอ่ยด้วยความทุกข์ระทม รู้สึกเดือดพล่านอยู่ภายในใจ
นางเสียใจกับความโหดร้ายนั้น
"พวกข้าจะทำลายลูกๆที่ให้กำเนิดมาได้อย่างไร
ถึงแม้ว่าการกระทำของพวกเขาจะสร้างความเดือดร้อน ก็จงอดทนกว่าเดิมสักหน่อยเถิด"
มัมมู เอ่ยขึ้นพร้อมให้คำปรึกษาแด่ อัปชู
(ในเมื่อ) ขุนนางแห่งการขบถคือผู้ให้คำปรึกษา มัมมู
"ได้โปรดทำลายล้างเถิด พระบิดา วิถีเช่นนั้นช่างไร้ระเบียบ
ท่านจักได้พักผ่อนในยามทิวาและหลับในยามราตรี"
อัปชู เห็นด้วยกับเขาจนแสดงออกเป็นใบหน้าที่เปี่ยมสุข
เพราะเขาก็คิดร้ายกับเหล่าเทพผู้เป็นลูก
มัมมู ใช้แขนโอบคอของ อัปชู
เขานั่งลงบนเข่าและจุมพิต
สิ่งที่พวกเขาทำการวางแผน
ได้ถูกส่งต่อไปถึงเหล่าทวยเทพรุ่นลูก
เหล่าเทพได้รับรู้แล้วก็ต่างวิตก
พวกเขาต่างตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกองค์ต่างนั่งเงียบ
แอ ผู้เปี่ยมไปด้วยปัญญา ผู้มีความสามารถและรอบรู้
แอ ผู้หยั่งรู้ทุกสรรพสิ่งได้คิดแผนขึ้น
เขาสรรสร้างและดำเนินการภายใต้ความอบอุ่น
เขาจัดการได้เชี่ยวชาญอย่างที่สุด ด้วยคาถาอันบริสุทธิ์
เขาได้ร่ายมนต์คาถาลงในน้ำ
เขาได้รินน้ำแห่งการหลับไหลให้ในขณะที่เขา(อัปชู)กำลังเคลิ้ม
เขาได้ทำให้ อัปชู เข้าสู่ห้วงนิทราในขณะที่เขากำลังหลับไหล
และ มัมมู ผู้ให้คำปรึกษาหายใจรวยรินด้วยความร้อนรน
เขาได้ฉีกร่าง(ของ อัปชู)ออก ทำลายมงกุฎ(อัปชู)ทิ้ง
ดึงเอารัศมีของเขาออกแล้วนำมาใส่ให้ตนเอง
เขามัด อัปชู ไว้และฆ่าทิ้ง
มัมมู ถูกจองจำและพันธนาการอย่างไม่ปราณี
เขาสร้างที่อยู่จากร่างของ อัปชู
เขาจับ มัมมู ไว้ กำเชือกจูงจมูกไว้ในมือ
หลังจาก แอ ได้พันธนาการและล้มล้างศัตรูของเขา
ได้รับชัยชนะเหนือเหล่าศัตรู
เขาพักผ่อนอย่างสงบในห้องของตัวเอง
เขาเรียกมันว่า อัปชู เป็นศาลเจ้าที่ถูกตนตั้งขึ้น
หลังจากนั้นเขาก็ใช้เป็นที่พำนัก
และ แอ และ ดัมคินา ภรรยาของเขาก็ได้ประทับลงอย่างสง่างาม
ในโถงแห่งโชคชะตา ในห้องแห่งต้นแบบ
ผู้ที่มีความปรีชาสามารถยิ่ง ปราชญ์แห่งทวยเทพ เทพได้ก่อกำเนิด
ในอัปชู มาร์ดุค ได้จุติ
ในความบริสุทธิ์ของอัปชู มาร์ดุค ได้ถือกำเนิด
แอ คือผู้เป็นบิดาบังเกิดเกล้า
ดัมคินา คือมารดาผู้ให้กำเนิด
เขาได้ดื่มนมจากอกของเทพี
เหล่าผู้พยาบาลต่างดูแลและให้ความยำเกรง
ร่างกายของเขาเติบโต ประกานในนัยน์ตาของเขาเจิดจรัส
การเติบโตของเขาสมชายชาตรี เขาเพรียบพร้อมทุกอย่างตั้งแต่เริ่ม
อนู ผู้ให้กำเนิดบิดาของเขาได้มองเห็น
เขารู้สึกปลาบปลื้มใจนักและยิ้มแย้ม ในดวงใจของเขาท่วมท้นด้วยความสุข
อนู ยอมรับว่าเขาช่างสมบูรณ์แบบ ทั้งความศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นที่น่าตราตรึงใจ
และเขาสูงส่ง เกิดสมบูรณ์แบบในเหล่าเทพจากการมีส่วนร่วมของเขา
คนของเขาช่างสง่างามอย่างหาที่เปรียบมิได้
ยากยิ่งนักที่จะมิหวั่นไหว ยากแท้แม้เพียงจะมอง
นัยน์ตาทั้งสี่ หูทั้งสี่
เปลวเพลิงพวยพุ่งเมื่อริมฝีปากของเขาขยับ
หูทั้งสี่โตใหญ่
และนัยน์ตาของเขามองเห็นซึ่งทุกสิ่ง
ร่างกายของเขาสูงสง่าและเหนือกว่าเทพทุกองค์
แขนขาของเขาสง่าเหนือสิ่งอื่นใด ธรรมชาติของเขานั้นสมบูรณ์แบบ
"มาริ-อูตู มาริ-อูตู"
บุตร สุริยเทพ สุริยเทพแห่งเหล่าเทพยดา
เขามีรัศมีของเทพทั้งสิบ ความสูงส่งเด่นเป็นเลิศ
ความน่าเกรงขามทั้งห้าสิบต่างปรากฎในร่าง
อนู ได้รวบรวมและให้กำเนิดลมทั้งสี่
เขามอบสิ่งเหล่านั้นให้ (มาร์ดุค) "บุตร จงให้มันพัดพา!"
เขาสร้างธุลีขึ้นและสร้างพายุให้โหมไป
เขาสร้างคลื่นที่ทำให้ เทียแมต รู้สึกหวาดกลัว
เทียแมต รู้สึกสับสน นางหวาดกลัวตลอดเวลาทิวาราตรี
เหล่าเทพมิได้พักผ่อน พวกเขา.....
ในใจของพวกเขาคิดสิ่งชั่วร้าย
และได้เอ่ยบอกกับมารดา เทียแมต
"เมื่ออัปชู คู่ครองของท่านได้ถูกปลิดชีพ
ท่านมิได้ไปหาเขา แต่นั่งอยู่เงียบๆ
สายลมร้ายทั้งสี่ได้ถูกสร้างขึ้น
เพื่อทำให้ท่านต้องตกอยู่ในความสับสนและเราไม่สามารถหลับลง
ท่านมิได้คิดถึงคู่ครองของท่าน อัปชู
หรือถึง มัมมู ที่ตอนนี้ถูกจองจำ ท่านตอนนี้ต้องโดดเดี่ยว
นับจากนี้ท่านจะต้องตกอยู่ในความหวาดกลัวที่บ้าคลั่ง!
และสำหรับพวกข้า ผู้มิอาจหลับตานอนลงได้ ท่านมิได้รักพวกข้าเลย!
เมื่อคำนึงถึงความทุกข์ของพวกข้าแล้ว นัยน์ตาของพวกข้าช่างว่างเปล่า
จงทำลายกำแพงในใจท่าน ที่จักทำให้พวกข้าได้หลับลง
ก่อสงคราม ล้างแค้นเสีย!
........จนไม่เหลือสิ่งใด!
เมื่อ เทียแมต ได้ฟังก็เห็นดีด้วย
(นางกล่าวว่า) "ให้พวกข้าได้ให้กำเนิดปีศาจ (ตามที่เจ้า)เสนอแนะ"
เหล่าเทพต่างล้อมรอบตัวนาง
พวกเขาต่างเข้าใจ(ความชั่วร้าย)ที่ต่อต้านเทพผู้ให้กำเนิด
พวกเขา....และเลือกเข้าข้าง เทียแมต
วางแผนอย่างบ้าคลั่ง มิหลับนอน
กระหายในสงคราม โกรธแค้น ความรุนแรง
พวกเขาหาผู้สนับสนุนที่จะนำมาซึ่งความขัดแย้ง
มารดาฮูเบอร์ ผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง
ได้ตระเตรียมอาวุธอันไร้เทียมทานและให้กำเนิดงูใหญ่
พวกมันมีเขี้ยวคมและไร้เมตตา
ด้วยมีพิษที่ไหลอยู่ในร่างแทนโลหิต
นางสวมความน่าเกรงกลัวให้กับเหล่าปีศาจ
นางมอบรัศมีให้กับพวกมันอย่างเทพเจ้า
(นางเอ่ยว่า) "ให้ผู้ที่ได้พบเห็นเจ้าต่างต้องพินาศ
ให้พวกเขาต้องแตกพ่ายศิโรราบ"
นางสร้างปีศาจงู มังกร และ วีรชนผู้มีขนปกคลุมร่าง
ปีศาจที่ยิ่งใหญ่ สุนัขแห่งความป่าเถื่อน และ มนุษย์แมงป่อง
ปีศาจอันกราดเกรี้ยว เงือก และ ครึ่งมนุษย์ครึ่งโค
ต่างจับอาวุธแข็งขัน ต่างหาญกล้าไร้ความกลัวในสงคราม
คำบัญชาของนางถือเป็นที่สุด มิมีผู้ใดขัดได้
ทั้งปวงนี้นางได้สร้างทั้งหมดสิบเอ็ดเหล่า
ในบรรดาทวยเทพ บุตรของนางที่ให้การสนับสนุน
นางได้แต่งตั้ง คิงกุ และมอบอำนาจให้
เป็นแม่ทัพใหญ่ผู้นำพากองทัพ
ต่างถืออาวุธ สามัคคี ร่วมระดมพล
แม่ทัพนั้นมีอำนาจในการคุมกองกำลัง ถือเป็นผู้นำสูงสุด
นางไว้ใจและมอบบังลังก์ให้
"ข้าได้ร่ายมนต์แก่เจ้าและแต่งตั้งเจ้าในหมู่เทพ
ข้าได้มอบอำนาจการปกครองเหนือเหล่าเทพให้แก่เจ้า
แท้จริงเจ้าช่างสูงส่ง คู่ครองของข้าจักต้องเป็นที่เลื่องลือ
ให้การบัญชาของเจ้าเหนือกว่าทั้งหมดของ อานุนนาคิ
นางมอบแผ่นจารึกแห่งโชคชะตาและประดับมันไว้ที่อกของเขา
(กล่าวว่า)"คำบัญชาของเจ้ามิมีทางเปลี่ยนแปลง ให้วาจาของเจ้าเป็นจริง"
หลังจาก คิงกุ ได้รับตำแหน่งและอำนาจ
เขาได้ประกาศิตในโชคชะตาของเหล่าเทพ บุตรของนาง
"ขอให้วาจาของเจ้าปราบได้แม้อัคนีเทพ
ให้พิษของเจ้าที่เก็บในอกลดลงด้วยความเกรี้ยวกราดนี้"
จบแผ่นที่ 1
**(.....) แสดงส่วนที่ไม่สามารถแปลได้เนื่องจากความเสียหายของโบราณวัตถุ
***(วงเล็บ) มีไว้ใส่ส่วนขยายความเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจ
แปลไทยโดย: Patcha_kurukuru
Comments